เช่า 3 เหรียญ ลด100 +free EMS (เช่า 5 เหรียญ ลด200) *** พยายามลงของทุกวัน
Rut20
เหรียญรุ่น1 ปีลึก ผิวรุ้ง ผิวปรอท สวย เเท้ เดิม ราคาถูก ที่นี้ที่เดียว ไลน์/โทร 0809322665
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ 1 แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ 1 แสดงบทความทั้งหมด

วันพุธที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

พระปิดตาหลวงปู่โต๊ะจัมโบ้สองสร้าง๓,๐๐๐องค์ปลุกเสก๓ไตรมาส

พระปิดตาหลวงปู่โต๊ะจัมโบ้สองสร้าง๓,๐๐๐องค์ปลุกเสก๓ไตรมาส

พระปิดตาหลวงปู่โต๊ะจัมโบ้สองสร้าง๓,๐๐๐องค์ปลุกเสก๓ไตรมาส : พระองค์ครู เรื่องและภาพ ไตรเทพ ไกรงู

พระปิดตาหลวงปู่โต๊ะจัมโบ้สองสร้าง๓,๐๐๐องค์ปลุกเสก๓ไตรมาส

             พระราชสังวราภิมณฑ์ หรือหลวงปู่โต๊ะ ท่านเกิดเมื่อวันที่ ๒๗ มีนาคม พ.ศ.๒๔๓๐ ในแผ่นดินของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ท่านเป็นอดีตเจ้าอาวาส วัดประดู่ฉิมพลี เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร หรือจังหวัดธนบุรี ในอดีต

             ด้วยวัตรปฏิบัติอันงดงามเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวพุทธทุกชนชั้น ท่านถึงพร้อมด้วยบุญบารมีและอิทธิบารมี พระเครื่องของท่านมีปาฏิหาริย์ศักดิ์สิทธิ์ มีประสบการณ์เล่าขานมากมายจรดเหนือจรดใต้ทั่วประเทศไทย จนกลายเป็นพระหลักยอดนิยมของเมืองไทย ท่านได้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดประดู่ฉิมพลี เมื่อวันที่ ๑๐ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๕๖-๕ มีนาคม พ.ศ.๒๕๒๔ จนกระทั่งมรณภาพ รวมระยะเวลานานถึง ๖๘ ปี

             ประวัติในการสร้างพระเครื่องของหลวงปู่โต๊ะนั้น พระเครื่องชุดแรกสุดของท่านจะมีทั้งหมด ๑๓ พิมพ์ด้วยกัน เช่น พระสมเด็จสามชั้น พิมพ์ขาโต๊ะ, พระสมเด็จพิมพ์เจ็ดชั้น และพระสมเด็จสามชั้นพิมพ์หูบายศรี เป็นต้น หลวงปู่โต๊ะได้ลงมือสร้างด้วยความตั้งใจและปรารถนาจะให้ขลังเป็นพิเศษ โดยพยายามเสาะหาวัตถุอันเป็นมงคลและอาถรรพณ์เวทต่างๆ ที่มีความขลังความศักดิ์สิทธิ์มาทำ และกดพิมพ์ด้วยมือของท่านเองเป็นส่วนใหญ่

             ในการกดพิมพ์สร้างพระเครื่องของหลวงปู่โต๊ะนั้น ท่านจะกดพิมพ์ไปเรื่อยๆ เมื่อมีเวลาว่าง โดยไม่ได้เจาะจงว่าจะทำพิมพ์นั้นจำนวนเท่านี้ พิมพ์นี้จำนวนเท่านั้น และพระทั้งหมด ๑๓ พิมพ์ ทำไว้จำนวนเท่าไร หลวงปู่ก็ไม่ได้กำหนดไว้เป็นหลักฐาน ท่านเพียงแต่บอกว่าได้ลงมือสร้างพระมาตั้งแต่ตอนที่ท่านอายุได้ ๓๐ ปีเศษๆ

             พระปิดตา จัมโบ้ หนึ่ง หรือพระปิดตา มหาลาภ พิมพ์ใหญ่ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี สร้างเมื่อ พ.ศ.๒๕๒๐ พิมพ์นี้ถือเป็นการเริ่มแรกแห่งชุดจัมโบ้ หรือปฐมจัมโบ้ ก็ว่าได้ ตอนออกมาใหม่ๆ คนร้อง โอ้โฮ จะใหญ่อะไรกันขนาดนั้น แล้วใครจะแขวนคอ แต่พอนานไปชินตากลับเป็นของดียอดนิยม ราคาพุ่งเกือบเหยียบหลักแสน

             พระพิมพ์จัมโบ้ หนึ่ง มีการสร้างเป็น ๓ เนื้อ คือ เนื้อผงใบลานสร้าง ๑,๒๗๒ องค์ เนื้อผงเกสร ๕๗ องค์ และเนื้อผงสมเด็จ (สีขาว) ๑๖ องค์
   
             สำหรับภาพพระองค์ครูฉบับบนี้เป็น "ปิดตาจัมโบ้สอง เนื้อเกสร" ของนายอรรถพล จันทร์มณี หรือโอ๊ก พระบ้านแท้ ผู้บริหารศูนย์พระเครื่องเทสโก้ โลตัส ชั้น ๕ โซนใหม่ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญและชำนาญในการดูพระเครื่องสายหลวงปู่โต๊ะทุกรุ่น

             โอ๊ก พระบ้านแท้ บอกว่า ปิดตาจัมโบ้สอง เนื้อเกสร สร้างจำนวน ๓,๐๐๐ องค์ ปลุกเสก ๓ ไตรมาส ระหว่าง พ.ศ.๒๕๒๑-๒๕๒๓ ส่วนพระปิดตารุ่น "ปลดหนี้" นั้น รุ่นนี้สาเหตุที่เรียก เพราะว่าเวลาหลวงปู่หยิบพระพิมพ์นี้ให้ใครท่านจะกล่าวให้พรว่า "ขอให้หมดหนี้หมดสินนะ" และเป็นจริงอย่างที่หลวงปู่ท่านกล่าว หลวงปู่โต๊ะได้เมตตาปลุกเสกให้นานถึง ๓ ไตรมาส ระหว่าง พ.ศ.๒๕๒๑-๒๕๒๓ มี ๒ เนื้อคือ เนื้อผงเกสรและเนื้อใบลาน มีทั้งแช่และไม่แช่น้ำมนต์ ด้านหลังมี ๒ พิมพ์ คือ ยันต์นะมหาเศรษฐี และยันต์ตรีนิสิงเห

             จากประสบการณ์เล่าขานของผู้ที่นำไปบูชา คุณวิเศษทางด้านเมตตา โชคลาภ โดยเฉพาะด้านการเงิน ช่วยให้หลายๆ คนปลดหนี้ได้ จริงๆ หากผู้บูชาเป็นผู้ประพฤติตนดี ตามคำสั่งสอนของหลวงปู่โต๊ะ ท่านจะพบกับโชคลาภ เมตตา มากมาย และแคล้วคลาด ปลอดภัย อย่างไม่ต้องสงสัย
นสพ.คมชัดลึก

วันพฤหัสบดีที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

พระหลวงปู่ทวดทองคำ'หายาก!'๑๐ลำดับค่านิยม

พระหลวงปู่ทวดทองคำ'หายาก!'๑๐ลำดับค่านิยม

พระหลวงปู่ทวดทองคำ'หายาก!'๑๐ลำดับค่านิยม

พระหลวงปู่ทวดทองคำ'หายาก!'๑๐ ลำดับ ค่านิยมและความนิยมพระหลวงปู่ทวด : เรื่องและภาพ ไตรเทพ ไกรงู

              เมื่อ พ.ศ.๒๔๙๗ หรือเมื่อ ๕๘ ปีที่แล้ว พระหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ จ.ปัตตานี ที่จัดสร้างโดยพระครูวิสัยโสภณ หรือพระอาจารย์ทิม ธมมธโร อดีตเจ้าอาวาสวัดช้างให้ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ปัจจุบันโด่งดังสูงล้ำด้วยค่านิยม ชนิดไล่หลังพระสมเด็จวัดระฆังเลยทีเดียว ทุกวันนี้กลับกลายเป็นค่านิยมที่มีการแสวงหากันทั่วประเทศ
  
              ด้วยประสบการณ์ชัดเจน มีประสบการณ์ด้านแคล้วคลาดจากอุบัติเหตุเป็นเลิศ ผู้ที่นับถือต่างพบเห็นประสบการณ์มากมาย “พระหลวงปู่ทวด” วัดช้างให้ ถือเป็นพระประเภทนิรันตราย จนมีคำพูดว่า “แขวนพระหลวงปู่ทวดแล้วไม่ตายโหง”
  
              นอกจากนี้แล้วแม้พระหลวงปู่ทวดที่สร้างจากวัดอื่น หากผู้บูชามีศรัทธาในหลวงปู่ทวดอย่างแท้จริงก็สามารถก่อให้เกิดปาฏิหาริย์เป็นอัศจรรย์ได้เช่นเดียวกัน และคติความเชื่อนี้เองทำให้มีการสร้างหลวงปู่ทวดออกมาจำนวนมาก จนมีคำพูดในวงการสร้างพระเครื่องว่า “สร้างพระหลวงปู่ทวดอย่างไรก็ขายได้และไม่ขาดทุน”
  
              ทั้งนี้ได้มีการจัดลำดับค่านิยมไว้ได้ดังนี้ คือ เนื้อว่านรุ่นแรก พิมพ์ใหญ่ยอดนิยมเอ หรือที่เรียกกันว่าพิมพ์หัวไม้ขีด มีค่านิยมหลักล้านโดยเฉลี่ย ในกรณีที่เป็นพระสวยสมบูรณ์ พิมพ์ใหญ่ยอดนิยมบี หรือที่เรียกกันว่าพิมพ์ใหญ่ลึก ก็มีค่านิยมหลักล้านเช่นเดียวกัน พิมพ์ใหญ่ยอดนิยมซี ที่เรียกกันว่าพิมพ์ไหล่จุดก็มีค่านิยมเฉลี่ยหลักแสนกลางๆ ส่วนพิมพ์อื่นๆ ก็อาจถึงพิมพ์ต้อใหญ่ซึ่งหายากมาก ก็อยู่หลักแสนกลางๆ พิมพ์พระรอดหน้าใหญ่ ซึ่งอยู่ในกลุ่มพิมพ์เล็ก ถ้าสวยแชมป์ก็หลักแสนกลางๆ โดยเฉลี่ย
  
              ในขณะที่พระรูปเหมือนเลขใต้ฐาน ถ้าเลขสวยตัวเดียว อย่างเช่นเลข ๙ แน่นอนว่าทะลุหลักล้าน หรือ ๙ หน้า ๙ หลัง ก็ต้องถึงล้าน ส่วนเลขอื่นๆ ถ้าสวยก็เริ่มต้นที่หลักแสนกลางๆ เช่นเดียวกับพระหลังเตารีดพิมพ์ใหญ่เนื้อนวโลหะ ตอกโค้ด ฉ ฉิ่ง ก็เริ่มต้นที่หลักแสนกลางๆ ยิ่งมี ฉ ฉิ่งหลายตัวยิ่งมากแสนหรืออาจถึงล้าน และดังที่กล่าวแล้ว เหรียญหัวโตรุ่นแรก ถ้าสวยแชมป์ก็ทะลุล้าน เหรียญเลื่อนสมณศักดิ์ ปี ๒๕๐๘ สวยแชมป์ก็หลายแสน
  
              ด้วยเหตุปัจจัยดังกล่าวทำให้ค่านิยม หรือราคาเช่าซื้อพระหลวงปู่ทวดสูงขึ้น จากการรวบรวมข้อมูลค่านิยมพระหลวงปู่ทวดใน ๑๐ ลำดับของความนิยม ประกอบด้วย
                
              ๑.พระหลวงปู่ทวดเนื้อว่านรุ่นแรกวัดช้างให้ พิมพ์ใหญ่หัวขีด ค่านิยมหลักหลายแสน ถึงหลักล้าน ๒.พระหลวงปู่ทวดเนื้อว่านรุ่นแรกพิมพ์ใหญ่บี ค่านิยมหลักหลายแสนถึงหลักล้าน ๓.พระหลวงปู่ทวดเนื้อว่านรุ่นแรกพิมพ์ใหญ่ไหล่จุด ค่านิยมหลักหลายแสน ๔.พระหลวงปู่ทวดเนื้อว่านพิมพ์พระรอดหน้าใหญ่ ค่านิยมหลักแสนถึงหลายแสน ๕.พระหลวงปู่ทวดเนื้อว่านพิมพ์อื่นๆ ล้วน ค่านิยมหลักแสนทั้งสิ้นถ้าสภาพสวย
  
              ๖.พระหลวงปู่ทวดพิมพ์หลังเตารีดใหญ่เนื้อนวโลหะ พ.ศ.๒๕๐๕ ค่านิยมหลักหลายแสน ๗.รูปหล่อโบราณพระหลวงปู่ทวดรุ่นเล็กใต้ฐาน พ.ศ.๒๕๐๕ ค่านิยมหลักหลายแสน ๘.เหรียญเสมาพระหลวงปู่ทวดรุ่นแรก พ.ศ.๒๕๐๐ ค่านิยมหลักหลายแสนถึงล้าน ๙.รูปเหมือนพระหลวงปู่ทวดบัวรอบรุ่นใต้ฐานลายเซ็น พ.ศ.๒๕๐๘ ค่านิยมหลักแสน และ ๑๐.พระหลวงปู่ทวดหลังเตารีดใหญ่ กลาง เล็ก ล้วนแล้วแต่มีค่านิยมเป็นหลักหมื่นถึงแสน
  
              ในขณะที่เหรียญสมณศักดิ์ พ.ศ.๒๕๐๘ มีอยู่ด้วยกันหลายเนื้อ ทั้ง เนื้อทองคำ เงิน อัลปาก้า และทองแดง เฉพาะทองแดงที่อยู่ในสภาพสวยอยู่ในหลักล้านทุกองค์
  
              สำหรับรุ่นและองค์ที่ขึ้นชื่อว่าแพงสุดๆ และแพงกว่าพระสมเด็จ คือ "พระหลวงปู่ทวด รุ่นเลขใต้ฐาน ปี ๐๕" หรือที่ปัจจุบันเรียกว่า "เบตง ๑" โดยเฉพาะหมาย "เลข 999" ทั้งนี้ มีการตั้งประเมินค่านิยมไว้ว่า "หากใครอยากได้พระหลวงปู่ทวด รุ่นเลขใต้ฐาน ปี ๐๕ หมายเลข 999 ต้องใช้เงินเช่าอย่างน้อย ๑๕ ล้านบาท
  
              ส่วนเหตุผลที่ทำให้พระหลวงปู่ทวด รุ่นเลขใต้ฐาน ปี ๐๕ หมายเลข 999 มีคาราสูงมานั้น มีเหตุปัจจัยอยู่ ๓ ประการ คือ ๑.ผู้สร้างมีชื่อเสียง เป็นยอมรับ ๒.จำนวนการสร้างชัดเจน ๙๙๙ องค์ มีการตอกเลขกำกับ ซึ่งใช้เป็นข้อศึกษา และ ๓.เนื้อนวโลหะเทได้ดีมาก เลขตัวเดียวแพงกว่า ๒ ตัว เลข ๒ แพงกว่า ๓ ตัว นอกจากจากนี้ถ้าเป็นเลขมงคลก็จะเแพงขึ้นไปอีก
  
              ขอบคุณภาพจากนายสุขธรรม ปานศรี หรือที่คนในวงการรถยนต์รู้จักในชื่อ “เฮียกุ่ย” ผู้จัดการใหญ่ บริษัท แม็กกา อาร์.ดี. (กรุ๊ป) จำกัด นักสะสมพระหลวงพ่อทวดชุดทองคำมานานกว่า ๑๐ ปี และเจ้าของ "WWW.SOONPRARATCHADA.COM

โค้ด "พระองค์เจ้าเฉลิมพล ฑิฆัมพร"

              ตำนานการสร้างพระหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ ของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมพล ฑิฆัมพร หรือพระองค์ชายกลาง คือ เนื่องจากท่านทรงคบหาสนิทสนมเป็นมิตรกับคหบดีใหญ่ปักษ์ใต้ คือ คุณอนันต์ คณานุรักษ์ และได้รับมอบพระเครื่องหลวงปู่ทวดเนื้อว่าน พ.ศ.๒๔๙๗ จากคุณอนันต์มาหนึ่งองค์โดยทรงบูชาติดตัวประจำ
  
              ครั้งหนึ่งรถยนต์ที่พระองค์ชายกลางประทับเกิดอุบัติเหตุพลิกคว่ำ แต่พระองค์ไม่มีอันตรายแม้แต่รอยขีดข่วน ทำให้ท่านเกิดความศรัทธาในองค์หลวงปู่ทวด วัดช้างให้ อย่างสูง และเมื่อวัดโดยพระอาจารย์ทิม และคุณอนันต์ จะจัดสร้างพระเครื่องหลวงปู่ทวด พ.ศ.๒๕๐๕ ท่านจึงปวารณาตัวขอเป็นผู้อุปถัมภ์ในการจัดสร้าง และได้นำชนวนโลหะอันศักดิ์สิทธิ์มาเทหล่อเป็นเนื้อโลหะต่างๆ ที่กรุงเทพมหานคร กลายเป็นพระรุ่น พ.ศ.๒๕๐๕ ที่ลือลั่นมาจนถึงปัจจุบัน
  
              ในการจัดสร้างพระครั้งนั้น เนื่องด้วยเสด็จพระองค์ชายกลางเป็นผู้อุปถัมภ์ จึงสำเร็จลุล่วงด้วยดี และท่านได้จัดสร้าง "พระกริ่ง" อันงดงามด้วยพุทธลักษณะขึ้นในครั้งนั้นด้วย เมื่อหล่อพระกริ่งได้โปรดให้ช่างแกะแม่พิมพ์ขึ้นและเททองปลุกเสกโดยพระอาจารย์ทิม วัดช้างให้ พร้อมกันกับพระเครื่องหลวงปู่ทวด พ.ศ.๒๕๐๕
  
              ครั้นเสร็จจากพิธีเสด็จท่านได้ถวายพระกริ่งซึ่งสำเร็จขึ้นมีพุทธลักษณะงดงามให้วัดช้างให้จำนวน ๓๐๐ องค์ ซึ่งเรียกกันต่อมาว่า "พระกริ่งใหญ่หลวงปู่ทวด" หรือ "พระกริ่งวัดช้างให้" ส่วนที่เหลือทรงนำมาถวายให้วัดตาก้อง ด้วยพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าเฉลิมพลฑิฆัมพรนั้น ท่านได้ฝากตัวเป็นศิษย์เอกของหลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง และปลุกเสกอีกวาระโดยเกจิอาจารย์สายนครปฐม ผู้คนเรียกกันว่า "พระกริ่งเฉลิมพล" ซึ่งทั้งสองประเภทได้รับความนิยมแสวงหาจากนักสะสมอย่างยิ่ง และต่อมาผู้คนก็พลอยเรียกพระกริ่งของวัดช้างให้ว่าพระกริ่งเฉลิมพลไปด้วย

พระหลวงปู่ทวดทองคำของ "หลวงนวย"

              กรณี “พระหลวงปู่ทวดเนื้อทองคำ” ถึงกับทำให้เซียนสายหลวงปู่ทวดหงายหลังไม่เป็นท่า เพราะคนที่อยู่ในพิธีสร้างหลวงปู่ทวดรุ่นดังหลายรุ่นยังมีชีวิตอยู่ท่าน คือ หลวงอำนวย หรือพระอำนวย นนทิโย ซึ่งปัจจุบันได้ลาสิกขาเป็นฆราวาสแล้ว
  
              หลวงอำนวย เล่าย้อนให้ฟังว่า ตนเป็นพระลูกศิษย์ใกล้ชิดพระอาจารย์ทิม ธัมมโร ติดตามอาจารย์ทิมตั้งแต่เด็กๆ เนื่องจากบ้านอยู่ที่นั่น พออายุถึงเกณฑ์ก็ออกบวชเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์เมื่อ พ.ศ.๒๕๐๘ ซึ่งตรงกับปีที่พระอาจาย์ทิมได้เลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูวิสัยโสภณพอดี
  
              ในปีนั้นมีการจัดสร้างพระเครื่องรุ่นที่วงการพระนิยมกันมาก คือ รุ่นเลื่อนสมณศักดิ์ ปี ๒๕๐๘ สร้างขึ้นเพื่อแจกในงานเลื่อนสมณศักดิ์ของพระครูวิสัยโสภณ หรือพระอาจารย์ทิมเป็นพระครูชั้นโท พัดยศขาว ฝ่ายวิปัสสนา มีทั้งเนื้อทองคำ เนื้อเงิน ทองแดง และอัลปาก้า
  
              หลวงนวย ยังบอกด้วยว่า ถ้าจะถามว่าพระเครื่องหลวงปู่ทวดรุ่นไหนดี พระอาจารย์ทิมสร้างจำนวนเท่าไร ในตอนนั้นจะไม่ทราบเลย เพราะไม่ได้สนใจมาก เหรียญหลวงปู่ทวดทองคำส่วนหนึ่ง อาจารย์ทิมจะเก็บเอาไว้ต่างหาก เช่น เหรียญรุ่นเศียรโตทองคำ ทองคำลงยา เม็ดแตงทองคำลงยา เป็นต้น

 
นสพ.คมชัดลึก

พระเครื่องประจำราศีเกิด


พระเครื่องประจำราศีเกิด

สำหรับคนที่อยากมีของมงคลเสริมดวงบูชาเอาไว้พกติดตัว อย่างเช่น  เอาไว้เพื่อยึดเหนี่ยวจิตใจ แต่ยังเลือกไม่ถูกว่าจะตัวเองจะบูชาพระเครื่องอะไรดี Sanook! Horoscope มีคำตอบมาให้ กับเรื่องราวของพระเครื่องเสริมดวงประจำราศี
พระเครื่องประจำราศีเกิด
ขอบคุณภาพจาก http://www.tumsrivichai.com/
พระเครื่องประจำราศีเมษ 
ลักษณะราศีหมายถึงการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วและมีธาตุดินผสม จึงควรแขวนพระที่มีลักษณะตรงข้าม คือความสงบนิ่ง อันได้แก่ พระปางสมาธิ ปางนาคปรก หรือปางถวายเนตร 
ท่านผู้มีราศีเมษ พึงแขวนพระที่มีพระพุทธคุณทางด้านเมตตาและแคล้วคลาด ควรจะเป็นพระเนื้อผงผสมว่านหรือเนื้อดินเผา หรือดินผสมผง หรือเป็นพระเนื้อผงที่ผสมด้วยดินจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ
พระเครื่องประจำราศีพฤษภ
ลักษณะประจำราศีพฤษภ เคลื่อนไหวไม่รวดเร็วแต่มีพลังและกล้าแข็ง จึงไม่ควรจะใจเร็วด่วนได้ ทำอะไรต้องคิดก่อนทำเสมอ ด้วยเหตุว่าเป็นคนใจร้อนเป็นทุนเดิม ควรแขวนพระประเภทมีความเย็นจะเป็นพระผง หรือพระที่ทำจากหิน
พระที่ควรจะแขวนควรจะเป็นพระปางนาคปรก หรือพระห้ามสมุทร (ยกพระหัตถ์หรือมือสองข้างขึ้นเสมอพระอุระหน้าอก) สุภาพสตรีในราศีนี้ควรแขวนพระปิดตา (มือสองข้างปิดตา) ไม่ควรแขวนพระมหาอุตม์ จะถูกโฉลกอย่างยิ่ง โฉลกนี้มิใช่โชคลาภแต่เป็นความสุขความร่มเย็น
พระเครื่องประจำราศีเมถุน
ลักษณะราศีเป็นคนอ่อนไหว จึงควรแขวนพระที่ธาตุหนักได้แก่พระเนื้อโลหะเป็นพื้นและต้องเป็นโลหะที่ผ่านการหล่อหลอมจึงจะดี ไม่ควรแขวนพระเนื้อผงหรือเนื้อดิน เนื้อว่าน
พระปางที่เหมาะก็คือ พระพุทธรูป หล่อเป็นพระเครื่ององค์เล็กๆ ไม่ควรใช้แบบครึ่งซีก หรือเป็นเหรียญ ยิ่งเป็นพระพุทธรูปสำคัญยิ่งดีใหญ่ หรือไม่ก็แขวนพระเนื้อชินที่เป็นของพระกรุ ประเภทพระร่วงยืน หรือนั่ง ถ้าหาของเก่าไม่ได้เอาที่เขาสร้างขึ้นใหม่ในแบบของพระร่วงก็ได้จะคุ้มครองป้องกันภัย และเหมาะกับโฉลกดวง
พระเครื่องประจำราศีกรกฎ
พระที่เหมาะกับคนในราศีกรกฎ คือ เหรียญที่มีรูปไข่ทุกชนิดจะเป็นเหรียญพระพุทธ หรือเหรียญพระเกจิอาจารย์ก็ได้ ที่รองลงไปก็คือเหรียญกลม อย่าได้ใช้เหรียญที่เป็นสี่เหลี่ยมหรือมีมุมเป็นเด็ดขาด ไม่เชื่อทดลองดูได้ ถ้าท่านแขวนเหรียญที่เป็นเหลี่ยมเมื่อใดท่านจะต้องพบอุปสรรคไม่มากก็น้อย
สำหรับพระเครื่องนั้นควรเป็นพระเนื้อดิน หรือดินผสมผงหรือเป็นพระที่ทำจากตะกั่วหรือชิน สำหรับปางนั้นให้เป็น ปางมารวิชัย เป็นดีที่สุด
พระเครื่องประจำราศีสิงห์
เนื่องจากคนในราศีสิงห์เป็นคนใจร้อนและเย่อหยิ่งอวดดีหัวรั้น และทำอะไรรวดเร็ว จึงเหมาะที่จะแขวนพระปางสมาธิ หรือพระปิดตาหรือปิดทวาร เพราะแสดงลักษณะของการสงบนิ่ง หรือจะใช้พระนาคปรกก็จะดีเหมือนกัน
เพราะไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ แต่พึงอย่าแขวนพระนาคปรกที่เป็นพระปางมารวิชัย จะทำให้เกิดความขัดข้อง เนื้อพระควรเป็นเนื้อผง หรือเหรียญมากกว่าพระเนื้อโลหะ อย่างอื่น ถ้าเป็นพระกรุให้เลือกปางสมาธิ
พระเครื่องประจำราศีกันย์
พระที่เหมาะกับราศีกันย์ คือพระนางพญา หรือพระที่มีรูปสามเหลี่ยม พระนางพญาจะเป็นของใหม่หรือเก่าไม่สำคัญ หรือไม่ก็แขวนพระเนื้อผงพิมพ์สมเด็จที่มีสามชั้นเท่านั้น ถ้าเป็นเหรียญให้เลือกเหรียญที่เป็นรูปหยดน้ำเป็นเหมาะ
พระเครื่องประจำราศีตุลย์
ชาวราศีตุลย์มักจะชอบทำงานใหญ่เกินตัวชอบแบกรับภาระที่หนักเกินกำลัง กลับถือว่าเป็นการท้าทาย จึงมักจะล้มลุกคลุกคลาน เพราะบกภาระดังกล่าว ด้วยงานหนักนั้นบางครั้งก็ต้องใช้เวลานานกว่าจะรู้ผลแพ้ชนะ
พระเครื่องที่เป็นเนื้อโลหะจะมีผลดีที่สุดในการผจญภัย และถ้าเป็นปางนาคปรก ก็จะเสริมบารมีให้ดีขึ้น
พระเครื่องประจำราศีเกิด
ขอบคุณภาพจาก http://www.tumsrivichai.com/

พระเครื่องประจำราศีพิจิก
คนในราศีนี้เป็นคนที่มีคนอุปถัมภ์ไม่ขาดคนเมตตา แม้ว่าจะปากเสียแต่ใจคอองอาจและซื่อตรงยิ่งนัก
พระที่แขวนถูกโฉลกกับชีวิตคือ พระทางเมตตา เช่นพระเนื้อผง พระเนื้อโลหะที่ปลุกเสกด้วยพระที่มีเมตตาธิคุณแบบสายกรรมฐานทางภาคอีสาน หรือหลวงพ่อที่มีเมตตามากๆ
เช่น พระเครื่อง หลวงพ่อแนม กตปุญโญ วัดเขาหน่อ นครสวรรค์ ไม่ควรแขวนพระทางบู๊ หรือคงกระพัน หรือทางอำนาจเพราะจิตใจร้อน โกรธง่าย สำหรับพระทางอำนาจนั้นอำนาจของตัวเองมีแล้วไม่ต้องเสริม ให้หาพระทางเมตตาไว้เป็นยอดที่สุด
พระเครื่องประจำราศีธนู
เป็นผู้มีความเฉลียวฉลาดและปัญญาดีจะเอาตัวรอดได้เพราะปัญญาส่วนหนึ่งเหมือนกัน อาชีพการงานของคนในราศีนี้เหมาะกับการเป็นเซลล์หรือการประมูลทำงานต่างๆ รับราชการปานกลาง ทำงานส่วนตัวค้าขายกพอเอาตัวรอดได้ 
พระเครื่องที่เหมาะกับคนราศีธนู คือ พระเครื่องที่มีมุมแหลม จะเป็นแบบห้าเหลี่ยมซุ้มแหลม หรือสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน แปดเหลี่ยมเป็นอาทิ ยกเว้นรูปสามเหลี่ยมจะไม่เป็นผลดี จะเป็นเนื้อผง เนื้อโลหะหรือเหรียญได้ทั้งสิ้น ส่วนพระนั้นไม่จำกัดปาง
พระเครื่องประจำราศีมังกร
ผู้ที่เกิดในราศีมังกรควรแขวนพระที่มีพระนามของพระมหากษัตริย์ประดิษฐานอยู่ด้านหน้าหรือด้านหลัง หรือไม่ก็เป็นพระที่พระมหากษัตริย์ได้ทรงเสด็จเททองหรือทรงประกอบพิธีจุดเทียนชัยพุทธาภิเษก
ไม่ว่าจะเป็นพระปางใดเนื้อใด ด้วยคนในราศีนี้นั้นจะต้องอาศัยพระนามของพระมหากษัตริย์ที่ประดิษฐานในวัตถุมงคลเป็นศรีแก่ชีวิตและการงาน ทั้งสุภาพบุรุษและสตรีใช้แบบเดียวกันได้
พระเครื่องประจำราศีกุมภ์
เป็นคนอาภัพคนช่วยเหลือ ต้องดิ้นรนด้วยตัวเอง แต่ช่วยเหลือคนอื่นได้หมด มีสติปัญญาดีและรู้รอบ ให้พยายามอดทนและทนอดให้มากที่สุด จะพบกับความสำเร็จ ด้วยคนที่เกิดในราศีนี้จะพลิกฟื้นคืนตัวหรือมีฐานะดีได้ เพียงแต่พลิกฝ่ามือเดียวเมื่อเวลามาถึง
พระที่ควรแขวนคือ พระที่มีส่วนผสมของความเย็น เช่น น้ำ น้ำมนต์ หรือน้ำมันหอมต่างๆ หรือเป็นพระที่ผ่านการแช่น้ำมนต์ หรือพระที่เป็นเนื้อผงที่ไม่ผ่านความร้อนต่างๆ ไม่เหมาะจะแขวนพระเครื่องที่เป็นโลหะหรือเหรียญพระที่ควรแขวนควรเป็นปางสมาธิ ปางนาคปรก หรือพระปางประทานพร
พระเครื่องประจำราศีมีน
พระเจ้าสร้างให้คนราศีมีนเป็นผู้มีสติปัญญาในการพลิกแพลงหากินดี จึงมักจะทำมาหากินด้วยอาชีพต่างๆ หมุนไปเวียนมา เป็นคนเปลี่ยนงานง่ายเหมือนเปลี่ยนเสื้อผ้า สบายใจก็อยู่นาน ไม่สบายใจก็ลาออกเสียงั้นแหละ เป็นคนไม่ยึดติดยศถาบรรดาศักดิ์
พระที่เหมาะสำหรับคนในราศีนี้คือ พระที่เป็นเนื้อโลหะหล่อหลอมด้วยไฟ หรือเหรียญที่ปลุกเสกด้วยอำนาจแห่งเตโชกษิณ พระกรุสมัยลพบุรีหรือพระที่เป็นพระออกศึกสงคราม เช่น พระพุทธชินราช ดีกว่าพระอย่างอื่น จะช่วยเสริมด้านอำนาจที่อ่อนด้อยของตัวเองและเป็นเกราะป้องกันอันตรายให้แขวนพระปางมารวิชัย เพียงปางเดียว
ขอบคุณข้อมูลจาก : www.หลวงพ่อเปิ่น.com

ไปรษณีย์ส่งอีเอ็มเอสผิดบ้าน เจ้าของแทบสลบ พระเครื่องมูลค่าหลายแสนล่องหน

ไปรษณีย์ส่งอีเอ็มเอสผิดบ้าน เจ้าของแทบสลบ พระเครื่องมูลค่าหลายแสนล่องหน

ภาพประกอบไม่เกี่ยวกับเนื้อหา

ไปรษณีย์ส่งอีเอ็มเอสผิดบ้าน เจ้าของแทบสลบ พระเครื่องมูลค่าหลายแสนล่องหน

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 23 พ.ค. 57 พ.ต.ท.รัชกฤช วุฒิชัยภิญโญ พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ สภ.ย่อยรัตนาธิเบศร์ อ.เมือง จ.นนทบุรี ได้เรียกพบนายธีรวัฒน์ เลิศชินพงษ์ อายุ 36 ปี ห้างพันธ์ทิพย์ สาขางามวงศ์วาน กรณีที่แจ้งความไปรษณีย์จังหวัดนนทบุรีนำส่งพัสดุ EMS ผิดบ้านเลขที่จากที่นำจ่าหน้ากล่องพัสดุทำให้พระเครื่องราคาหลายแสนบาทสูญหายเข้าพบพร้อมเจ้าทุกข์ นายสุทธิพร สุนันท์ทา หัวหน้าแผนก EMS ไปรษณีย์ จ.นนทบุรีและนางลิ้นจี่ ชวนรัก อายุ 55 ปี เจ้าของบ้านที่รับพัสดุแล้วทำสูญหาย เพื่อสอบสวนหาข้อสรุปในการรับผิดชอบ
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 8 พ.ค. 57 เวลาประมาณ 10.30 น. ได้มีบุรุษไปรษณีของที่ทำการไปรษณีจังหวัดนนทบุรี ชื่อนายอ๊อฟ(นามสมมุติ) ได้นำส่งพัสดุ EMS เลขที่ EK487318691TH ซึ่งจ่าหน้ากล่องเป็นชื่อ นายธีรวัฒน์ เลิศชินพงษ์ ที่อยู่ที่นำส่งตามหน้ากล่องคือ บ้านเลขที่ 49/58 หมู่ 2 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี แต่บุรุษไปรษณีย์ได้นำส่งผิดบ้านและนายธีรวัฒน์ได้ทำการตรวจสอบไปที่ทำการไปรษณีย์จนทราบถึงบ้านที่นำส่งผิดและทราบชื่อผู้เซ็นรับพัสดุคือ นางลิ้นจี่ (ไม่ทราบนามสกุล) แต่เมื่อไปทวงถามถึงพัสดุกลับได้รับคำตอบว่าพัสดุได้หายไป ซึ่งสิ่งของในกล่องพัสดุคือพระเครื่องหลวงพ่อทับ วัดอนงค์ พิมพ์ปรางค์ซอนหา เนื้อเฆมสิทธิ์ เหลี่ยมกรอบเงินโบราณ จำนวน 1 องค์ จึงได้เข้าแจ้งความให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด
จากการสอบสวนนานกว่า 1 ชม.เจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ จ.นนทบุรีและนางลิ้นจี่ ยอมรับถึงข้อผิดผลาดแต่ยังหาข้อสรุปในการรับผิดชอบไม่ได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มอบหมายให้นายธีรวัฒน์ ตีราคาพระเครื่องเป็นจำนวนเงินออกมาและให้คู้กรณีทั้ง 2 ฝ่ายได้พูดคุยว่าจะรับผิดชอบได้มากน้อยแค่ไหน จากนั้นในวันที่ 26 พ.ค. 57 ทั้ง 3 ฝ่ายต้องหาข้อสรุปให้ได้ ซึ่งถ้าผลการเจรจาไม่เป็นไปตามที่เจ้าของพัสดุต้องการจะต้องทำการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พ.ต.ท.รัชกฤช กล่าวว่าจากการสอบสวนวันนี้ยังหาข้อสรุปไม่ได้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้นัดอีกทีวันที่ 26 พ.ค. ถ้าตกลงกันไม่ได้ก็ต้องดูว่าผู้เสียหายจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการให้หรือผู้เสียหายจะดำเนินการฟ้องศาลเอง
นายพรชัย อรุณเลิศศิริ (อ้วน หนองแค) เซียนพระห้างพันธ์ทิพย์พลาซ่า งามวงศ์วาน ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงราคาพระดังกล่าว ได้รับคำตอบว่าพระองค์นี้เป็นพระเก่าเล่นกันมานานแล้ว ราคาหลักแสนและขึ้นตลอดไม่เคยราคาตก เป็นพระที่หายากมากส่วนราคากลางสามารถตรวจสอบในอินเตอร์เน็ตได้ เซียนพระเห็นพิมพ์จะรู้จักแทบทุกคนแต่ถ้าเป็นเด็กรุ่นใหม่จะไม่ค่อยรู้
นายธีรวัฒน์ กล่าวหลังจากหาข้อสรุปในวันนี้ไม่ได้ว่าถ้าในวันที่ 26 พ.ค. ยังหาข้อสรุปไม่ได้ก็อยากให้เป็นอุทาหรณ์ให้กับทางไปรษณีย์ให้เข้มงวดกับการนำส่งของให้มากกว่านี้ คนส่งของอย่าไปเซ็นรับของเองและต้องตรวจสอบเลขที่ส่งให้เรียบร้อย พอเกิดปัญหาแล้วหาคนรับผิดชอบยาก ถ้าให้ตนประเมินราคาพระตนจะไม่ประเมินตนอยากได้พระคืนถ้าไม่ได้พระคืนก็ต้องให้เป็นไปตามกฎหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจส่งฟ้องศาลไป

ที่มา Sanook

ผู้ว่าฯพร้อมนำทำบุญ50วันมรณภาพ‘หลวงพ่อคูณ’5ก.ค.

ผู้ว่าฯพร้อมนำทำบุญ50วันมรณภาพ‘หลวงพ่อคูณ’5ก.ค.

ผู้ว่าฯพร้อมนำทำบุญ50วันมรณภาพ‘หลวงพ่อคูณ’5ก.ค.

ผู้ว่าฯนครราชสีมาพร้อมศิษยานุศิษย์ และประชาชน เตรียมพิธีทำบุญครอบรอบ 50 วัน แห่งการมรณภาพหลวงพ่อคูณ 5 ก.ค. นี้ ที่วัดพายัพ

 
 
          วันที่ 2 ก.ค.58 นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า หลังจากที่วัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ได้มีกำหนดการจัดพิธีบำเพ็ญกุศลครบรอบ 50 วัน แห่งการมรณภาพของ "หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ" อดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ในวันอาทิตย์ที่ 5 ก.ค.58 นี้ ทางจังหวัดนครราชสีมา ร่วมกับคณะสงฆ์จังหวัดนครราชสีมา ก็ได้กำหนดจัดพิธีบำเพ็ญกุศล ครบรอบ 50 วัน ในวันดังกล่าวเช่นกัน 
 
          โดยจะจัดขึ้นที่วัดพายัพ  เพื่อให้ประชาชนที่อยู่ในตัวเมืองนครราชสีมา และอำเภอใกล้เคียง ได้มีโอกาสร่วมพิธีบำเพ็ญกุศล  โดยพิธีจะเริ่ม เวลา 08.30 น. เป็นต้นไป ซึ่งจะมีพิธีสวดพระพุทธมนต์ พิธีสวดมาติกาบังสุกุล พิธีสวดธรรมนิยาม พิธีเทศน์ 1 กัณฑ์ และพิธีถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์ นอกจากนี้ยังมีการจัดโรงทานอีกด้วย
 
ที่มา คมชัดลึก

หลวงพ่อชื่นวัดในปราบมรณภาพ !ปิดตำนาน 'ผาลพลิกแผ่นดินพลิกชีวิต'

หลวงพ่อชื่นวัดในปราบมรณภาพ!ปิดตำนาน'ผาลพลิกแผ่นดินพลิกชีวิต' 

 



หลวงพ่อชื่นวัดในปราบ มรณภาพ! ปิดตำนานเจ้าตำรับ'ผาลพลิกแผ่นดิน พลิกชีวิต' : เรื่องและภาพ ไตรเทพ ไกรงู

              พระครูมงคลสมณกิจ หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า "พ่อท่านชื่น  อินทปัญโญ" หรือ "หลวงพ่อชื่น วัดในปราบ" พระอริยสงฆ์แห่งวัดในปราบ ต.บ้านเสด็จ อ.เคียนซา จ.สุราษฎร์ธานี กลายเป็นอีกหนึ่งตำนานเจ้าตำรับ "ผาลพลิกแผ่นดิน พลิกชีวิต" ท่านมรณภาพอย่างสงบเมื่อวันพุธที่ ๒๔ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๕๘ เวลา ๑๔.๓๕ น. สิริอายุรวม ๙๒ ปี

              "นายชื่น แก้วศรีมล" เป็นชื่อและสกุลเดิมของพ่อท่านชื่น อินทปัญโญ เกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ ๑ มกราคม พ.ศ.๒๔๖๗ บิดาของท่านเป็นที่รู้จักกันในนาม อาจารย์ล่อง ผู้รักษาคนไข้ทางด้านอาคม หรือไสยศาสตร์ในสมัยนั้น เมื่ออายุครบ ๗ ขวบ ได้เข้าเรียนที่โรงเรียนวัดศิลา จ.นครศรีธรรมราช เรียนจบชั้น ป.๔ หลังจากเรียนจบ บิดาของท่านได้นำท่านไปฝากเป็นศิษย์หลวงพ่อคล้าย วาจาสิทธิ์ วัดสวนขัน จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งหลวงพ่อคล้ายมีฐานะเป็นตาของนายชื่น
ครั้งหนึ่งพ่อท่านคล้ายได้สรงน้ำในขณะที่นายชื่นซักสบงให้พ่อท่านคล้ายอยู่ พ่อท่านคล้ายได้ตักน้ำขันที่สามนำมารดศีรษะและนำมือรับน้ำใต้คาง แล้วส่งให้นายชื่นดื่ม เมื่อดื่มน้ำนั้นแล้วพ่อท่านคล้ายได้เริ่มถ่ายทอดวิชาต่างๆ และท่านได้เล่าเรียนวิชาอาคมจากพ่อท่านคล้าย เช่น วิชาทำนายดวงชะตา ขับไล่ภูตผีปีศาจ การขับไล่คุณไสยต่างๆ อีกมากมายจากพ่อท่านคล้าย และเล่าเรียนวิชาอาคมที่ตกทอดจากตระกูลของบิดาท่าน ซึ่งได้ถ่ายทอดให้จนครบอายุครบ ๑๘ ปี บิดาเสียชีวิตจึงกลับมาบ้านทำงานเลี้ยงดูผู้เป็นมารดา

              ขณะอายุ ๕๕ ปี พ่อท่านชื่นได้เข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ อุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดไม้เรียง ต.ไม้เรียง อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๒๒ โดยมีพระครูญาณวรากร เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า “อินฺทปญฺโญ” พอถึงปี ๒๕๓๒ ท่านได้ย้ายไปจำพรรษาอยู่ที่ที่พักสงฆ์ที่ชาวบ้านจัดไว้ให้ในหมู่บ้านในปราบ และเริ่มสร้างวัดขึ้นตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาจนถึงปัจจุบันนี้ชื่อว่า วัดในปราบ โดยมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า วัดเจริญประชาธรรม

              อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ หลวงพ่อมีอาการอาพาธมานานแล้วได้เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเคียนซามาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดหลวงพ่อมีอาการไอ เหนื่อยหอบ และมีเสมหะมาก แพทย์ระบุปอดติดเชื้อ ต้องนำส่งเข้ารักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลจุฬาฯ ก่อนที่จะมรณภาพอย่างสงบ โดยได้ประกอบพีธีสรงน้ำศพวันที่ ๒๕ มิถุนายนที่ผ่านมา

              ส่วนกำหนดการสวดพระอภิธรรมกี่คืนคณะกรรมการวัดกำลังหารือ หลังจากครบกำหนดแล้วจะเก็บสรีระของท่านไว้ในพระมหาเจดีย์ ซึ่งหลวงพ่อชื่นท่านได้สร้างไว้ล่วงหน้าเสร็จมาหลายปีแล้ว
ตำนานแห่งเจ้าตำรับ "ผาลพลิกแผ่นดิน พลิกชีวิต"
              วัตถุมงคลที่ขึ้นชื่ออีกอย่างหนึ่งของท่าน คือ ผาลไถนา โดยท่านได้ใช้ผาลไถนาส่วนที่เป็นเหล็กอายุกว่า ๑๐๐ ปีนำมาตัดเป็นชิ้นๆ ขนาดและรูปร่างต่างๆ กันไปแล้วแต่หลวงพ่อจะจารมือลงไปว่าเป็นยันต์อะไร บางครั้งก็ยันต์นะ บางครั้งก็ยันต์นะพุทธคุณของผาลไถ เมตตามหานิยม โชคลาภ ทำมาค้าขายเจริญรุ่งเรือง แคล้วคลาด คงกระพันชาตรี มีประสบการณ์กล่าวขานมาแล้วมากมาย

              ในพระไตรปิฎก เล่มที่ ๕ พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๕ มหาวรรค ภาค ๒ ว่าด้วยเรื่อง "ภิกษุอาพาธด้วยโรคต่างๆ" โดยสมัยนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่งอาพาธถูกยาแฝด ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค พระผู้มีพระภาคตรัสอนุญาตแก่ภิกษุทั้งหลายว่า "ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ดื่มน้ำที่เขาละลายจากดินรอยไถซึ่งติดผาล"

              ตรงคำว่า  "ดินติดผาลไถ" นี้ก็ได้แก่ ดินที่ติดอยู่ที่ผาลไถที่ชาวนาเขาใช้ไถนานั่นแหละ ถ้าได้ดินติดผาลไถที่เป็นแบบโบราณคือ ไถที่เป็นไม้หรือเหล็ก และใช้เทียมกับควายหรือวัว แล้วก็มีคนจับเดินตามแบบนี้ก็ดี และก่อนจะดื่มน้ำดินผาลไถ ก็อธิษฐานด้วยว่า "ขออำนาจพุทธ-ธรรม-สงฆ์ จงบันดาลบุญข้าให้มาอยู่ที่น้ำดินผาลไถนี้ จงมีฤทธิ์อำนาจล้างอาคมยาแฝดในกายข้าให้มลายไป" เรื่องดื่มน้ำนี้ก็ดื่มไปเรื่อยๆ ทั้งดื่มทั้งอธิษฐานไปเรื่อยๆ จนกว่าอาการจะดีขึ้น

              ส่วนที่มาของผาลไถนั้นท่านเคยคิดจะสร้างพระเครื่องแต่ด้วยทุนทรัพย์ที่มีไม่มาก ชาวบ้านจึงช่วยกันหาโลหะเก่าๆ มามอบให้ท่าน ส่วนใหญ่เป็นเหล็กและทองเหลือง แต่เมื่อท่านแลเห็นผาลที่ถูกกองเศษเหล็กทับอยู่ท่านจึงดำริว่า "รู้แล้วของดีไม่ต้องไปหาไกล อยู่นี่นี่เอง" ว่าแล้วท่านจึงหยิบผาลไถออกมาแล้วให้ชาวบ้านช่วยกันหามาอีก ก็ได้มาจำนวนหนึ่ง ท่านนำมาปลุกเสกแล้วก็จาร แจกให้ผู้ที่มาทำบุญ แต่แล้วผาลก็หมดลง ท่านจึงนำผาลที่เหลือนำมาตัดเป็นชิ้นเล็กๆ ได้โขเลยคราวนี้ แต่ก็หมดลงอีกเพราะผู้ที่ทราบข่าวเรื่องผาลในการนำไปใช้ใช้ดีมากๆ

              คติการใช้ผาลเป็นวัตถุอาถรรพณ์นั้น ส่วนใหญ่เป็นคนในภาคใต้ โดยจะใช้ผาลในการประกอบพิธีต่างๆ เมื่อหมดอายุใช้งาน หรือมีผาลเก่าๆ ก็จะเอาขึ้นหิ้งบูชา บางรายถึงกับใส่ไว้ในโอ่งน้ำเพื่อป้องกันอาถรรพณ์ ขณะเดียวกันการทำพิธีถอนอาถรรพณ์พื้นดิน เมื่อเสร็จพิธีสวดถอนก็จะเอาผาลพลิกธรณีทั้ง ๘ ทิศ นอกจากนี้แล้วในการถอนหรือย้ายตำหนิบนร่างกาย (ไฝ-ปาน) จะใช้ผาลในการประกอบพิธีถึงจะได้ผลดีที่สุด
เหรียญรุ่นแรกและรุ่นสุดท้าย
              หลวงพ่อชื่น ถือเป็นตำนานแห่งผู้สร้างเครื่องรางผาลไถอันโด่งดัง เมตตาให้คติว่า วัตถุจากธรรมชาติและเครื่องใช้ไม้สอยต่างๆ ที่เราใช้ในชีวิตปกติประจำวันหลายชนิดมีอาถรรพณ์อยู่ในตัวอยู่แล้ว ไม่ต้องปลุกเสกสามารถนำไปใช้ได้เลย อย่างกรณีผาลไถนา ซึ่งใช้ประโยชน์สำหรับไถพลิกพื้นดิน และเป็นของใช้ชนิดเดียวในโลกที่สามารถพลิกแผ่นดินได้ เมื่อไถลงไปในดินแล้วก็สามารถผ่านตลอดโดยไม่มีอะไรติดขัด คนจึงเกิดความเชื่อ ผาลเป็นวัตถุอาถรรพณ์ที่สามารถพลิกสิ่งร้ายๆ ให้กลายเป็นดี ทำอะไรก็ผ่านตลอดเช่นเดียวกับผาลไถ

              ชาวบ้านให้ความเคารพนับถือพ่อท่านชื่นอย่างมาก เพราะพ่อท่านชื่นได้ใช้วิชาอาคมที่ร่ำเรียนมาช่วยสงเคราะห์ชาวบ้านรักษาอาการเจ็บไข้ได้ป่วยด้วยดีตลอดมา

              ทั้งนี้เมื่อ พ.ศ.๒๕๔๘ พ่อท่านชื่นได้จัดสร้างวัตถุมงคลขึ้นมาเป็นรุ่นแรกของท่าน ชาวบ้านได้บูชาเหรียญรูปเหมือนท่านไปห้อยคอ ต่างมีประสบการณ์มากมาย จนเป็นที่ร่ำลือกล่าวขานในด้านของความอยู่ยงคงกระพัน แคล้วคลาดปลอดภัย เมตตามหานิยม เป็นเลิศ ชื่อเสียงกิตติคุณของท่านเป็นที่รู้จักกันทั่วภาคใต้ แม้แต่ชาวมาเลเซียยังเดินทางมาบูชาวัตถุมงคลและขอพรจากท่านอย่างไม่ขาดสาย

              อย่างไรก็ตามในการก่อสร้างศาลาการเปรียญและเมรุ ใช้เงินประมาณ ๓ ล้านบาท คณะกรรมการจึงจัดสร้างหลวงพ่อชื่น รุ่น หลังผาลไถ โดยมีชนวนจากผาลไถนาโบราณ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายลำพังหัวผาลโบราณก็ถือว่าหายากแล้ว กรรมวิธีลอมละลายผาลก็ยากไม่น้อยกว่ากัน เพราะหัวผาลส่วนใหญ่เป็นเหล็กคุณภาพสูงแข็งกว่าเหล็กทั่วไป

              หลวงพ่อชื่น รุ่น หลังผาลไถ มีการจัดสร้างชุดกรรมการใหญ่ และชุดกรรมการเล็กสร้าง ๙ ชุด ประกอบด้วย พระ ๙ องค์ ได้แก่ พระบูชาหลวงพ่อชื่นหล่อเป็นรูปผาลไถเนื้อนวะหน้าตัก ๙ นิ้ว และ ๕ นิ้ว เนื้อทองคำ (ชุดใหญ่หนักกว่า ๒ บาท ชุดเล็ก ๖ สลึง) เนื้อเงิน เนี้อนวะ เนื้อทองแดง เนื้อฝาบาตร เนื้อเงินยวง และเนื้อผาลไถ



ที่มา : คมชัดลึก